อาการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับ
การรักษาอาการนอนกรน
การนอนกรนไม่ใช่โรค แต่เป็นสิ่งที่พบได้บ่อยในคนทั่วไป อาจสร้างความรำคาญแก่คนใกล้ชิดและคนรอบข้างบ้าง แต่หากการกรนนั้นมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับร่วมด้วย นอกจากจะมีปัญหาที่กล่าวข้างต้นแล้วยังก่อผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของผู้นั้น เพราะช่วงที่หยุดหายใจขณะหลับนั้น ออกซิเจนในเลือดจะต่ำลง ที่เรียกว่าภาวะ Hypoxia ทำให้เซลล์ทั่วร่างกายได้รับออกซิเจนไม่พอ เมื่อตื่นนอนจะรู้สึกว่านอนไม่พอทั้งๆที่นอนมากแล้ว อาจมีอาการหงุดหงิด สมาธิแย่ลง
ในช่วงที่ออกซิเจนในเลือดต่ำนั้นก่อให้เกิดปัญหากับร่างกายอย่างมาก เพราะก่อให้เกิดอนุมูลอิสระกับเซลล์ร่างกายจำนวนมาก อนุมูลอิสระเหล่านี้ทำให้ร่างกายเกิดภาวะ Oxidative stress ภาวะ Oxidative stress ก่อให้เกิดการอักเสบของผนังเส้นเลือดเล็กๆทั่วร่างกาย ทำให้การไหลเวียนเลือดในอวัยวะต่างๆไม่ดี ก่อให้เกิดความเสื่อม การแก่ก่อนวัย (Ageing) และนานวันจะก่อเกิดโรคของความเสื่อมที่มาเร็วกว่าคนทั่วไป อาทิ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความจำเสื่อม หรือ อัลไซเมอร์ ข้อเสื่อม ต้อหิน ต้อกระจก ฯลฯ ดังนั้น ถ้ามีอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับควรรีบรักษาไม่ควรละเลยอีกต่อไป
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญของคลินิกเอสธีค 99 ได้รับการยอมรับว่ามีความชำนาญและเชี่ยวชาญในการรักษาอาการนอนกรน ซึ่งรักษาโดยด้วยการฉีดยารักษานอนกรน (Injection Snorplasty) และการใช้ CO2 Laser ด้วยเทคนิคใหม่ล่าสุด Laser Anterior Palatoplasty ซึ่งจากการศึกษาวิจัยพบว่าการผ่าตัดวิธีนี้จะสามารถช่วยลดอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้เป็นอย่างดี การผ่าตัดไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่นาน การบาดเจ็บของเนื้อเยื่อน้อย เสียเลือดระหว่างผ่าตัดน้อย (ประมาณ 2-5 cc) ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็ว และการรักษาด้วยวิธีนี้ได้ผลดีเหนือกว่าการผ่าตัดแก้ไขอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับวิธีอื่นๆ เช่น UPF (Uvulopalatal Flap) เป็นต้น